ระวัง 5 ข้อที่คุณควรคิดที่จะเล่นกีตาร์

 5 ข้อผิดพลาดที่จะเล่นกีตาร์

1. เรียนกีตาร์ด้วยตัวเอง 

สิ่งที่คุณต้องระวัง อันดับแรก คุณอาจจะบอกได้ว่าคุณเล่นกีตาร์โดยไม่มีคนสอน   หัดเองอะไรเองหมด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะพัฒนาไปได้ อาจทำให้เสียเวลา ทำให้เราอาจไม่พัฒนาสักที ก็เราไม่รู้จะฝึกอะไร ทางที่ดีหาครูสอนสักคน เป็นเเนวทางที่จะเรียนรู้ต่อไป

2. ไม่รู้ว่าจะเล่นไปทำไม 

อันนี้ต้องคิดเลยละครับ เราต้องรู้ว่าเราชอบเล่นแนวไหน แล้วจะเล่นอะไร  ถึงเราจะพัฒนาได้ครับ ไม่ใช่จับนู่นจับนี่ ฝึกงูๆปลาๆ ลองใช้เวลาคิดแล้วคุณจะได้จุดมุ่งหมายของตัวเอง

3.ครูสอนไม่มีความสามารถ

อันนี้ต้องเลือกดีๆครับ บางคนแค่จับคอร์ดตีได้ก็กลายเป็นครูซะแล้ว  เลือกคนที่มีความสามารถหน่อย เลือกดีๆ ทฤษฏีสอนให้ได้มั่งเปล่า ระวังด้วยเดี๋ยวจะเสียตังค์ฟรี

4.มันต้องใช้เวลา

ไม่ใช่วันสองวันที่คุณจะเล่นได้ดี คำว่าเล่นได้กับเล่นดีมันต่างกันนะ  อยากจะเก่งอดทนหน่อยไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เรารักที่จะเล่นค่อยๆฝึกไป อย่าไปหักโหมหรืออย่าไปท้อ ฝึกไปเดี๋ยวก็ได้

5.ฝึกแบบเดียวกับศิลปิน 

อันนี้ก็แล้วแต่คน  ไอที่ศิลปินบอกให้ฝึกแบบนี้ๆ ก่อนที่เขาจะฝึกได้แบบนี้เขาฝึกอะไรมาก่อน ประสบการณ์ที่เขามี เราอาจจะฝึกแบบเขาไม่ได้  เราเลือกวิธีฝึกของเราดีที่สุด  ไงก็ฝากบทความนี้กับคำว่าระวังด้วยนะครับบ อิสๆๆ^^

อุปกรณ์เสริม(เอฟเฟกกีตาร์2-ลักษณะของ Guitar effect)

ลักษณะของ Guitar effect ในปัจจุบันมีสามแบบคือ

stom box  

คือเอฟเฟกก้อนที่บ้านเราเรียกกันแหละครับ

Multi effect  

      คือ  รวมเสียงเอฟเฟกหลายๆ ก้อน ไว้ในตัวเดียว all in one คือแบบ มีมัลติเอฟเฟกตัวเดียว เล่นเสียงเอฟเฟก ได้หลายอย่างมาก ถูกกว่า เอฟเฟกก้อนหลายๆตัวรวมกัน
เล่นพวก Multi คือแบบ "โป้งเดียวจอด" ไม่ต้องเสียตังซ้ำซากมีทุกอย่างในตัวเดียว แต่ Multi ส่วนใหญ่มันจะเป็น Digital ซึ่งเหมือนการจำลองเสียง ฟังดูมันจะ หลอนๆ ไม่เหมือนพวก Analog ที่ให้เนื้อเสียงที่ดีกว่าครับ

Rack effect

ประเภท rack ประเภทนี้ผมไม่ค่อยจะเห็นเท่าไรเลยไม่รู้ว่าใช้ยังไง แต่บนเวทีมักไม่ค่อยเห็นเท่าไรส่วนมากจะใช้แบบแรกมากกว่า หรืออาจจะใช้ในห้องอัดในสตูดิโอเพราะตัวใหญ่และราคาค่อนข้างจะสูงไม่สะดวกในการพกพาไปเล่นตามที่ไหน ๆ


อ้าาาาาาา เหนื่อยเลยย สวกยอกจริงๆ
ขอบคุณ

ดีดแล้วติดเฟรต(Fret)ทำไงดี?? version electric guitar

                    ดีดแล้วติดเฟรต(Fret)ทำไงดี?? 

เป็นคำถามยอดฮิตนะครับ  ทำยังไง มันมีอยู่หลายวิธีครับ ขอเสนอวิธีง่ายๆ ไม่ยากมาก ลองศึกษาดูนะครับ สำหรับกีตาร์ไฟฟ้า และกีตาร์โปร่ง ในบทความต่อๆไปนะครับ

ตั้งความโค้งของคอกีตาร์ให้เหมาะสม ก่อนครับ 
            http://guitar4view.blogspot.com/2014/01/fix-neck.html

ตั้งระยะ action ของกีตาร์ให้ดีครับ
             http://guitar4view.blogspot.com/2014/01/action-guitar.html

แล้วมาตั้ง  intonation เพราะถ้าไม่ตั้ง เล่นที่เฟรตในๆ อาจเพี้ยนสูง เพี้ยนต่ำครับ
              http://guitar4view.blogspot.com/2014/01/intonation.html

คอกีตาร์โค้งมาด้านหน้า/ด้านหลังทำไง??

ตั้งความโค้งของคอกีตาร์

       มีปัญหามากมายเกี่ยวกับคอกีตาร์ คอกีตาร์โค้งไปด้านหน้ามากเกินไป   คอโค้งไปด้านหลังมากเกินไป ก็อาจเกิด buzzing หรืออาการติดเฟรตได้   ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่แน่ๆคือเกิดจากใช้สายเบอร์ที่ใหญ่ขึ้นหรือ    เล็กลง ทั้งกีตาร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้า  เรามาหาวิธีแก้กันตามมาๆ

มาเชคความโค้งของคอกีตาร์

      นำคาโป้ capo  มาคาดที่เฟรต 1  แล้วนำนิ้วชี้มือขวากดที่เฟรตสุดท้ายของกีตาร์ 

เสร็จแล้วเช็คช่องว่างระหว่างใต้สาย กับเฟรตที่ 8 ว่ามันเหลือช่องว่ามากมั้ย ถ้ามันเหลือช่องมาก บอกได้ว่าคอโค้งครับ ถ้าไม่มีช่องเลยอาจแสดงว่าคอตรงหรือแอ่นนะครับ 

คอของเฟนเดอร์หลักๆมีอยู่ 2 แบบครับ คือ
1.คอแบบวินเทจ ที่ไขจากทางเฟรตสุดท้ายของคอ ซึ่งต้องถอดคอออกมาไขครับ
2.คอแบบโมเดิร์น สามารถไขได้จากทางหัวกีตาร์ครับ 

คอโค้งมาด้านหน้า/คอแอ่นมาด้านหน้า

                                  

     การที่คอแอ่นไปด้านหน้าเกิดจากการใช้สายเบอร์ใหญ่  การที่คอโค้งไปด้านหน้า ทำให้ระยะ Action ของสายสูง ที่สำคัญคือเล่นลำบากที่เฟรตกลางๆ ถึงด้านใน

         วิธีปรับคอแอ่นมาด้านหน้า  

วิธีการขันคอ ทุกครั้งที่ทำการขันคอกีตาร์ควรหย่อนสายไม่ ให้มีแรงดึงกับคอ

ขันตามเข็มนาฬิกา  ทำให้คอแอ่นไปด้านหลังครับ ขันไปทางนี้เมื่อรู้สึกว่าคอมันโค้งเกินไปนะครับ

 

สำหรับแบบวินเทจ ให้ถอดคอออกมาก่อนนะครับ

คอโค้งมาด้านหลัง/คอแอ่นมาด้าน

          การที่คอแอ่นไปด้านหลังเกิดจากการใช้สายเบอร์เล็ก หรือจะบอกว่า แรงดึงสายกีตาร์น้อยกว่าแรงดึงของคอกีตาร์ มันจึงไม่สามารถดึงคอโค้งขึ้นมาได้ ทำให้คอกีตาร์แอ่นไปด้านหลัง อาจทำให้สายติดเฟรตแรกๆ

         วิธีปรับคอแอ่นมาด้านหลัง   

       ไขทวนเข็มนาฬิกา มันเหมือนกับว่าเป็นการคลาย Truss rod  ทำให้คอกีตาร์โค้งไปข้างหน้าได้ง่ายเมื่อเจอแรงดึงของสายกีตาร์ครับ เมื่อรู้สึกว่าคอแอ่นไปข้างหลังเกินไป หรือมักติดเฟรตแรกๆ  ไขทวนเข็มนาฬิกาช่วยได้เลยครับ ทำเหมือนกับคอโค้งด้านหน้า แต่ตรงข้ามกันหมดเลยครับ

จบแล้วครับบบบ   แต่ยังไม่จุใจ หรือ อยากแก้ buzzing ด้วยวิธีอื่นติดตามบทความต่อไปฮะผม _^^_

ดันสายกีตาร์ยากทำไงดี ??

********* วิธีการSet ให้  กีตาร์ดันสายได้ง่ายขึ้น *********

           เคยเป็นมั้ยครับเล่นกีตาร์ของเพื่อน อย่างfender พอเล่นดันสายแล้วรู้สึกว่า มันดันง่ายจังวะ!!! ~~~  พอมาเล่นของตัวเองเหยไม่กล้าดันแฮะเสียวขาดมันแข็งๆ  เนี่ยแหละครับ แต่วันนี้มีวิธีมานำเสนอง่ายๆ ไม่ยาก   จากปกติที่เล่นดันสาย ก่อนอื่นให้เปิดฝาหลังมันออก ดูตรงสปริง แล้วลองดันสายดูคุณก็จะเข้าใจการทำงานของมันครับว่า เมื่อดังสาย บริดจ์ของ กีตาร์มันจะยกตัวขึ้น และสปริงก็จะยืดตัวด้วยเช่นกัน แต่ถ้ามันดันสายยากล่ะ??  ตามมาเลย

วิธีการดันสายให้ง่าย

      คือการเปลี่ยนสปริงให้มันนิ่มกว่าเดิม  ยี่ห้อแนะนำ  Raw Vintage 

ขายเป็นชุด 5 ตัวประมาณ  800 บาทครับ แม้ว่าเราเปลี่ยนเสียงอาจจะเปลี่ยนด้วยนะครับ ตรงนี้แล้วแต่คนชอบนะครับ  ลองๆกันดูแกะสปริงออกจากซอง   ต่อจากนั้น นำสปริงมาใส่  อาจใช้ไขควงเพื่อผ่อนแรงเรา

เมื่อใส่สปริงมากขึ้น  ก็จะส่งผลกระทบต่อบริดจ์

ปกติบริดจ์จะลอยตัวอยู่นิดหน่อย ประมาณเหรียญสิบ
แต่เมื่อใส่ไป 5 ตัวจะมีแรงดึงมากทำให้บริดโดนดึงลงต่ำมาติดกับบอดี้ แก้ดังนี้

 
แก้ได้โดยคลายน้อต 2 ตัวด้านหลังให้สปริงหดตัวครับ เมื่อทำแล้วอย่าลืมตั้งสายเพื่อเชคดูว่าบริดจ์อยู่ระดับปกติรึยังด้วย

     ไขสปริงด้านหลังแล้วตั้งสายคีปกติที่เราเล่น ให้บริดจ์ลอยขึ้นประมาณเหรียญสิบ ก็โอเคละครับบแต่มันยังไม่สำเร็จนะครับแบบสมบูร์ เพราะเมื่อเราปรับบริดจ์  ระยะaction ก็เปลี่ยน เสียงอาจจะเพี้ยนเมื่อเล่นในๆ วิธีการแก้ไขคือ ตั้งสายแบบ Intonation ในบทความที่แล้วนะครับ 

ต้องขอขอบคุณ Heavymetal  จาก www.guitarthai.com

การตั้ง action guitar ทำไง??

               การตั้ง action guitar  ทำไง??

 มีคำถามมากมายเอ๊ะ    action คืออะไร   แล้วเกี่ยวอะไรกับกีตาร์   ตอบง่ายๆ action คือระยะสายกีตาร์ แล้วตั้งทำไม   บางครั้ง เราเล่นกีตาร์ แล้วอาจเกิดการ buzzing  หรือการติดเฟรท เราจึงต้องตั้งให้มันสูง และ อาจจะตั้งเพื่อการตั้ง intonation  

อันดับแรก 

ต้องตั้งสปริงเพื่อให้ตัวคันโยก มันขนานกับลำตัวก่อน 

รูปจาก guitarthai

วิธีการคือ ตั้งสายให้ตรงก่อนแล้วก็ค่อยปรับสปริงเข้าหรือออก เพื่อให้คันโยกมันได้ระดับ
อาจจะลำบากหน่อย และถ้ามีการไขสปริง เพื่อปรับระดับคันโยก ให้ตั้งสายใหม่ให้ตรงทุกครั้งด้วย
ทำไปจนกว่าคันโยกจะได้ระดับ และสายทั้ง 6 เส้นไม่เพี้ยน ตรงกับเสียงที่เราต้องการ 

 ต้องการทำให้บริดจ์ต่ำลง  ให้ขันน้อตทั้ง 2 ตัวให้เข้าไปในบอดี้ให้มากขึ้นนั่นเองครับ

 ต้องการให้บริดจ์ยกสูกขึ้น    ให้คลายน้อตทั้ง 2 ตัวด้านหลังออกจากบอดี้นั่นเองครับ  เมื่อขันเสร็จให้ตั้งสายใหม่ วัดความสูงดูอีกที  ทำแบบนี้จนได้ความสูงที่ต้องการครับ

อันดับสอง

         ข้างบนกับข้างล่างอาจเอียง เบี้ยวก็ หมุนปรับที่ตรงนี้ได้

         ถ้าเป็น แบบ FloydRose ก็แค่เอา 6 เหลี่ยม มาไขไอ้เจ้าเสา 2 ต้นที่วงไว้ ให้สูงหรือต่ำตามที่ต้องการ

      แต่ถ้าเป็นแบบ Fender ตั้งความสูงของBdirge คร่าวๆ แล้วความสูงที่ต่างกันอีกเล็กน้อย ไปตั้งที่ Saddle ก็ได้ 

อันดับสาม 

        ตั้งความสูงของ saddle และสาย ให้พอดี 

ถ้าสายสูงหรือต่ำไปให้ไขปรับที่แซดเดิ้ล (saddle)  ทำได้ไม่ยากฮะ แค่ปรับน้อตด้วยที่ไข 6 เหลี่ยมตามรูป

ขันตามเข็มนาฬิกา   Saddle จะสูงขึ้น ทำให้สายสูงขึ้นครับ
ขันทวนเข็มนาฬิกา  saddle จะต่ำลง ทำให้สายต่ำลงครับ

*การตั้งความสูงต่ำของสายขึ่นอยู่กับองศาของหน้าฟิงเกอร์บอร์ด (finger board) ด้วยครับ 

**ถ้าตัวเลขค่าความโค้งน้อยอย่าง 6.35" หมายถึงว่า หน้าฟิงเกอร์บอร์ดมีความโค้งมาก 

*** ฟิงเกอร์บอร์ดแบบโค้งๆวินเทจ สาย 1,2 และ 5,6 จะอยู่สูงกว่าปกตินะครับ

>คันโยก FloydRose แบบมาตรฐาน ใช้ได้กับคอที่มีความโค้ง หรือ Radius ประมาณ 10-14 นิ้ว แต่โดยมาก จะเห็นว่าใส่กับคอที่มี Radius 12 นื้ว ซะเป็นส่วนใหญ่

>ยกเว้นของ Ibanez ตระกูล Edge  คันโยก edge ประมาณ 16-17 นิ้ว  
ถ้าเอา Edge ไปใส่ยี่ห้ออื่นผลที่ได้ก็คือการติดเฟรท หรือไม่ก็สายสูงเกินไป 

คราวหน้ามาต่อ กันใหม่ action super deeppp  ^___________^

intonation คืออะไร

intonation คืออะไร

ความหมาย 

         ความแปร่ง หรือไม่แปร่ง 

       

         ในทางภาษาอังกฤษ คือ  ภาษาที่มีท่วงทำนอง (Intonation) มีเสียงสูงต่ำ ขึ้นๆลงๆ

 ส่วนภาษาไทยเราก็คล้ายๆกัน เราจะพูดคำว่า "ว่า"แต่ดันพูดว่า "ว้า" แบบนี้ครับพอจะเข้าใจกันนะครับ 

        

         ในทางกีตาร์  intonation   เป็นความสัมพันธ์ของ โน๊ตสายเปิดกับโน๊ตที่เฟรท Fret ที่12  การกดสายกีตาร์ลงไปบน เฟรท Fret จะทำให้เกิดแรงตึงบนสายกีตาร์ แรงตึงนั้นจะทำให้โน๊ตเกิดการเพี้ยนไปทาง Sharp นิดๆเสมอ มันเป็นผลจากระยะความสูงของสายกีตาร์หรือระยะ action นั่นเองครับ 

***********intonation คือเป็นการตั้งตำแหน่งของ Saddle หรือที่เรียกว่าหย่อง ให้เหมาะสม หรือเป็นการทำให้ทุกๆเฟรทของกีตาร์ เราไม่เพี้ยนนั่นเอง  

                                        

   Vertion Eng กีตาร์ไฟฟ้า

vertion thai กีตาร์ไฟฟ้า

วิธีการเชคและปรับ

> ถอดสายกีตาร์ชุดเดิมออกก่อน

> รอจนกว่าจะมี Tuner ใช้ แล้วค่อยทำ และการเซ็ต intonation แนะนำให้ทำทีละสายนะ

> ใส่สาย ตั้งสายให้ตรงกับ Pad key หรือตรงกับ Tuner นั่นเอง ซึ่งได้แก่ E A D G B E

> ดีดสายเปิด ตั้งเสียงตามข้อที่ผ่านมาขอแบบให้ตรงที่สุดเลยนะ

A กดสายที่ทำการตั้งอยู่ขณะนั้น ลงบนสันเฟร็ตที่ 12 แล้วดีด เป็นฮาโมนิค  
             

     ตั้งสายแบบฮาโมนิคให้ตรงก่อน โดยtuner
     หลังจากเช็คฮาร์โมนิคเรียบร้อยแล้ว

B กดสายที่ทำการตั้งอยู่ขณะนั้น ลงบนเฟร็ตที่ 12 แล้วดีด (ไม่ใช่การดีด Harmonic นะ)

     เชคดูที่ Tuner  ซึ่งถ้าที่หน้าปัด Tuner ค่อนไปทางเสียงต่ำจะเรียกว่า เพี้ยนต่ำ แต่ถ้าที่หน้าปัด Tuner ค่อนไปทางเสียงสูงจะเรียกว่า เพี้ยนสูง

             -ปรับสะพานสาย(Bridge)ดังนี้ครับ
         สายที่เพี้ยนสูง ก็เลื่อนตัวรองสายไปทาง ไขนอตปรับ saddle เคลื่อนไปทางหลังของกีตาร์ 

         ส่วนสายที่เพี้ยนต่ำ ก็เลื่อนตัวรองสายไปทางตรงกันข้าม ซึ่งตัวรองสายนี้จะมีน็อตยึดอยู่ ต้องไขน็อตออกก่อน

            -สำหรับคันโยก floydrose  ถ้าต่ำไป (ติด b) แสดงว่า ความยาวของสายมันยาวเกินปรกติ ทำให้มันสั้นลง โดยการไข หรือดึง Saddle ให้ร่นเข้าไปหาเฟรทบอร์ด 

แต่ถ้าสูงไป (ติด # ) ก็ดึงหรือไข Saddle ให้มันยาวขึ้น หรือว่าถอยห่างออกจากเฟรทบอร์ดนั่นเอง

      
หมายเหตุสำหรับกีตาร์ แบบ คันโยก 

ควรหาอะไรรองตรงที่เป็นพื้นที่สีน้ำเงิน หรือแดง ไม่งั้นจะตั้งลำบากมาก



ส่วนการตั้ง action แบบลึกๆ   จะกล่าวในครั้งต่อไปนะครับบ

     คราวหน้ามาต่อกันใหม่นะครับบบบบบ  วันนี้ลา ล่า ล้าาา