สายทด คืออะไร!

มารู้จักคำว่า "สายทด" กันหน่อย

                ผู้ที่เล่นกีตาร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้า หลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งจะเริ่มเล่นกีตาร์ อาจยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่า สายทด เพราะว่าคำว่า "สายทด" นั้นในปัจจุบันไม่มีการนำมาใช้แล้ว

                  เริ่มต้น ของสายทด

                 สายทด  เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วนู่น  วงการดนตรีร็อคทั้งในอเมริกาและยุโรปกำลังรุ่งเรืองอย่างมาก และด้วยการที่ชอบเสียงทุ้มและหนักแน่น ดังนั้นการผลิตสายกีตาร์ในยุคนั้น ส่วนใหญ่เป็นสายใหญ่ทั้งชุด โดยจะเริ่มต้นด้วยขนาด (เส้นผ่านศูนย์กลาง D) 0.13 นิ้ว เป็นสาย 1 ซึ่งสมัยนั้นขาดแคลนชุดสายเล็ก  จึงไม่เหมาะที่จะเล่นเพลงแนวป๊อปร็อค ซึ่งต้องการเน้นเสียงที่ใสสกาว  ฉะนั้นนักดนตรีเหล่านั้นก็หาทางออกได้โดยวิธีการนี้

                 กลายมาเป็นสายทด

               ซื้อสายมา 1 ชุด  เอาสาย 6 ออก และใช้สาย 5 แทนสาย 6  ,สาย 4 แทนสาย 5  ,สาย 3 แทนสาย 4  ,สาย 2 แทนสาย 3 และสาย 1 แทนสาย 2 ต่อไปจึงไปหาซื้อสาย1 ที่มีขนาดเล็กกว่ามาอีก 1 เส้น  ใส่ที่สายที่ 1 และเนื่องด้วยเหตุนี้จากการที่ตัดสาย 6 ออกไป จึงเป็นที่มาของคำว่า"สายทด" 
               

                   เกิดสายกีตาร์ยี่ห้อต่างๆและจุดจบสายทด!

             หลังจากนั้นประมาณ พ.ศ. 2516  โรงงานผลิตสายกีตาร์เกือบจะทั่วโลกจึงได้มีการกำหนดนโยบายสายกีตาร์ขนาดต่าง ๆ ออกมาเพื่อเป็นบรรทัดฐานเดียวกันให้นักกีตาร์ได้ใช้และเป็นที่ยอมรับ ซึ่งได้แก่  

1. สายชุด Heavy Gauge

          หมายถึง สายขนาดใหญ่ที่ให้เสียงทุ้มและหนักแน่น         

  2. สายชุด Medium Gauge 

         คือ สายชุดขนาดกลางซึ่งให้เสียงทุ้มและหนักแน่นนักกีตาร์แจ๊สชอบใช้

3. สายชุด Light Gauge 

        คือ สายชุดขนาดเล็ก (สายทด)    ที่ให้เสียงคมใส เล่นในแนวเพลงป๊อปร็อค            

4. สายชุด Extra Light Gauge 

         คือ สายชุดขนาดเล็กพิเศษ (สายทด) ซึ่งให้เสียงคมใสสามารถเล่นดันสายได้ง่าย  

5. สายชุด Ultra หรือ Super Light Gauge               
         คิอ สายชุดที่เล็กที่สุด (สายทด) ให้เสียงแหลมใสและคมมาก ใช้กับแนวดนตรีร็อค เช่นการโซโล่ solo    

         !!!!ด้วยเหตุนี้เองคำว่า "สายทด" จึงได้หมดไปและไม่จำเป็นต้องใช้ตั้งแต่ยุคดังกล่าว เพราะมีมาตรฐานของสายกีตาร์ไปเรียบร้อยแล้วครับ

           มาตรฐานของขนาดสายกีตาร์ 

         สายกีตาร์ไฟฟ้า       

- Medium Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.013"      
- Light Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.010"        
- Extra Light Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.009"    
  - Super หรือ Ultra Light Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.008"  

        สายกีตาร์โปร่ง / โฟล์ค      

- Heavy Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.014"        
- Medium Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.013"          
- Light Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.012"                  
- Extra Light Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.010"      
- Super หรือ Ultra Light Gauge สาย 1 จะมีขนาด 0.009"
 (สาย 3 เป็นสายเรียบ ขนาด 0.015")       

*หมายเหตุ*สาย 3 ของกีตาร์ไฟฟ้ามักจะเป็นสายเรียบ และสาย 3 ของกีตาร์โปร่งมักเป็นสายพันยกเว้นชุด Super หรือ Ultra Light Gauge เท่านั้นที่สาย 3 เป็นสายเรียบ


        เอาหละครับสำหรับคนที่เริ่มหัดเล่นกีตาร์โปร่งหรือกีตาร์ไฟฟ้า ควรใช้สายเบอร์เล็กๆก่อน กดจะได้ไม่เจ็บนิ้วมากนัก ทำให้เล่นคอร์ดทาบได้ง่ายด้วย   แต่ถ้าต้องการเล่นตีคอร์ดที่ให้เสียงดังน่าฟังหนักแน่นขึ้นอีก แนะนำ ขนาด Extra Light Guage ครับบ ^^