วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สายสัญญาณกีต้าร์ vs สายสัญญาณลำโพง


            Devilเป็นเรื่องที่ถูกเถียง โต้เถียง  ยืนเถียง นอนเถียงกันมายาวนานว่า ได้หรือไม่ ที่เราจะนำเอาสายสัญญาณกีตาร์ธรรมดาๆไปใช้กับแอมป์พลิฟายด์ (Amplifier) โดยในที่นี้หมายถึงแบบหัวแอมป์ + speaker cabinet  บางคนก็ว่าได้บ้างก็ไม่ได้ มันก็สายชนิดเดียวกัน แต่ความเป็นจริง เราไม่ควร!! ใช้สายสัญญาณทั้งสองผิดประเภท เพราะว่าอะไรกัน อัลไรๆๆๆ เพราะอะไรเราค่อยๆมาติดตามกันนะ  ตามมาๆ

Sunสายสัญญาณกีต้าร์ vs สายสัญญาณลำโพง Sun

สายสัญญาณกีตาร์ และ สายสัญญาณลำโพงถูกออกแบบมาเป็นสายสัญญาณคนละชนิดกันอย่างสิ้นเชิงครับ และแน่นอนที่สุดว่าต้องถูกออกแบบมาให้ใช้งานกันคนละแบบแน่ๆ ดังนั้นแล้วการใช้สายเคเบิ้ลที่ไม่ถูกหน้าที่ อาจจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาหลายระดับตั้งแต่อาจจะทำให้มีเสียงที่ไม่พึงประสงค์หนักไปจนถึงเครื่องมือบางชิ้นอาจจะมอดม้วยได้ แต่การที่เราสับสนว่าสายทั้งสองชนิดน่าจะเหมือนๆกันนั้นก็เป็นเพราะว่า สายสัญญาณทั้งสองชนิดดันพิเรณท์ใช้ปลั๊กชนิดเดียวกันคือปลั๊กชนิด 1/4” ที่เราชินๆตากัน ทีนี้จะให้เข้าใจว่าทำไมเราไม่ควรใช้สายสัญญาณให้ผิดประเภท เราน่าจะมาทำความเข้าใจในรายละเอียดว่า สายทั้งสองแบบเป็นอย่างไรในเชิงลึกหน่อยดีไหมครับ?
สายแจ็ค

Starสายสัญญาณกีต้าร์ มีลักษณะอย่างไร และทำหน้าที่อะไร

        สายสัญญาณสำหรับเครื่องดนตรี (กีตาร์, เบส, คีย์บอร์ด) เนี่ยมันเป็นชนิดที่ความต้านทานสูง และมีกำลังขับต่ำ เขาถูกออกแบบมาให้นำสัญญาณที่ยังไม่ถูกขยายจากกีตาร์เข้าไปสู่แอมป์พลิฟายด์ และเมื่อถึงตรง นั้นจึงจะถูกขยายดังขึ้น สังเกตนะครับว่าการนำสัญญาณจากกีตาร์ไปถึงแอมป์นั้น สัญญาณจะยังไม่ถูกขยายจนกระทั่งเข้าสู่แอมป์พลิฟายด์ ดังนั้นสายจึงไม่ได้ถูกสร้างให้รับสัญญาณแรงๆ ส่วนใหญ่สายสัญญาณกีตาร์จะเป็นสายที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเล็ก ปรกติจะเป็นขนาด 24 เกจ ที่จะถูกซ่อนไว้มิดชิดในสื่อนำไฟฟ้าที่ถูกถักไว้และนั่นจะทำหน้าที่เป็นกราวด์ ส่วนใหญ่แล้วสายเคเบิ้ลแบบนี้จะน้ำหนักเบา และ สายขนาดไม่ใหญ่มาก (เนื่องเพราะคุณจะต้องลากมันไปมาทั่วเวทีใช่ไหม?) และสายถักนั้นยังสามารถป้องกันเสียงรบกวนจากคลื่นไฟฟ้าภายนอกอีกด้วย ซึ่งถ้าสายคุณภาพสูงๆ ดีๆ ในจุดนี้จะทำให้ลดน๊อยส์รบกวนได้มาโขอยู่


Starสายสัญญาณลำโพง มีลักษณะอย่างไรและทำหน้าที่อะไร

           และสำหรับสายสปีกเกอร์ (speaker) ก็คือทุกอย่างแทบจะตรงกันข้ามกับสายสัญญาณของกีตาร์เลยหล่ะครับ คือความต้านทานต่ำและกำลังขับสูง สายประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้นำสัญญาณที่แรงมากๆๆๆ จากแอมป์ไปสู่ลำโพง และแน่นอนต้องนำสัญญาณไฟฟ้าที่แรงมากๆ อีกด้วย และที่ไม่เหมือนกับสายสัญญาณกีตาร์อีกอย่างก็คือสายสปีกเกอร์ไม่ได้มีสื่อนำสัญญาณแค่หนึ่งเส้น แต่เป็นสองเส้นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ใหญ่มากๆ เพื่อรองรับการไหลผ่านสัญญาณแรงๆ จากหัวแอมป์ไปสู่ลำโพงได้เต็มที่
ลองนึกภาพท่อน้ำดูครับ เมื่อมีน้ำไหลผ่านจำนวนมากๆ และมีแรงดันน้ำที่แรง ท่อขนาดเล็กจะมีความทนทานขนาดไหน พอรับความดันเหล่านั้นได้หรือไม่ และท่อที่มีขนาดใหญ่กว่าจะรับแรงดันได้ดีกว่าหรือเปล่า แบบนี้เราก็คงจะพอมองออกกันบ้างแล้วครับ ว่าสายสัญญาณกีตาร์ และ สปีกเกอร์มันใช้งานต่างกันอย่างไร คำตอบก็คือสายสัญญาณสปีกเกอร์นั้นมีคุณภาพสูงกว่าเมื่อใช้นำสัญญาณที่แรงกว่าและสัญญาณจะไหลผ่านได้ดีกว่า
แอมป์กีตาร์

Starถ้าใช้สลับกัน จะเกิดผลเสียอย่างไร

ถ้าคุณใช้สายเคเบิ้ลของกีตาร์ ทดแทน สายที่ใช้กับแอมป์พลิฟายด์ มันอาจจะใช้งานได้ผลในช่วงแรกๆ แต่ถ้าใช้งานไปเรื่อยๆ ผลที่จะตามมาก็คือ สัญญาณแรงๆจากแอมป์จะวิ่งผ่านสายสัญญาณที่มีสื่อนำขนาดเล็ก และความร้อนจะค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ เมื่อสัญญาณวิ่งผ่านได้ไม่เต็มที่ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ แอมป์คุณจะเสียงเบากว่าปรกติ มีเสียงซ่าๆ แปลกๆ ตามมา และสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยก็คือแอมป์พลิฟายด์คุณจะไหม้ครับ
         Light bulbเพราะงั้นแล้ว เรามาเริ่มใช้สายสัญญาณให้ถูกประเภทกันดีกว่า
ขอขอบคุณเวปไซท์ Fender.com ที่เขียนบทความดีๆ มาให้ได้ทำความเข้าใจกัน

ขอขอบคุณพี่ยอด และพี่เอ สำหรับบทความจาก Pedals’ Park ครับ
Website :http://www.pedalsparkplayground.com

Posted by: Pornpawit Trikumpun
Guitar4View, Updated at: 02:02

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น